ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Adenium obesum (Forssk.) Roem.
พรรณไม้ลำต้นอวบน้ำขนาดเล็ก ลำต้นมียาง สีขาวคล้ายน้ำนม สูง 1.20-2 เมตร ผิวเปลือกเรียบมัน สีเขียวอมขาว แตกกิ่งก้านสาขาเป็นทรงพุ่มโปร่ง
ใบ : เป็นใบเดี่ยว รูปไข่กลับ ปลายมนโคนใบสอบ มีลักษณะแข็งเป็นมันสีเขียว มีเส้นกลางใยสีขาว ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง
ดอก : ออกที่ปลายยอดเป็นรูปแตร ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เดิมชวนชมมีสีชมพูสีเดียว แต่ปัจจุบันมีการนำสายพันธุ์ต่างประเทศมาปลูกเพื่อพัมนาสายพันธุ์ ทำให้มีชวนชมสีใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย เช่น สีแดง บานเย็น สีขาวขอบชมพู สีแดงขอบขาว เป็นต้น ทั้งขนาดลำต้นก็มีตั้งแต่ต้นขนาดเล็กประมาณ 30 เซนติเมตร เรียกว่า “ชวนชมแคระ” ความสูงแตกต่างกันไป
วิธีปลูกและดูแลรักษา : ชวนชมชอบดินร่วนซุยหรือดินปนทราย ระบายน้ำได้ดี ต้องการน้ำน้อยและแสงแดดจัด ไม่ค่อยพบปัญหาเรื่องโรคและศัตรูพืช สามารถทนต่อความแห้งแล้งเพราะลำต้นอุ้มน้ำได้ดี จึงได้รับสมญานามว่า “Desert Rose” หรือ “กุหลาบทะเลทราย”
ชื่อวงศ์ : Apocynaceae
ประโยชน์ : นิยมปลูกลงกระถางเป็นไม้ประธานในสวนหย่อม เนื่องจากเป็นไม้รูปทรงสวย ปลูกริมถนน ริมสระว่ายน้ำ หรือสวนกรวด ได้อย่างสวยงาม เพราะออกดอกตลอดปีและมีสีสันสวยงาม
ต้นไม้สัญลักษณ์ : ชวนชมเป็นไม้ต่างถิ่นที่นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยกว่า 70 ปีแล้ว กล่าวกันว่า ชวนชมเป็นไม้ดอกที่ปลูกอยู่ในเขตพระราชวังมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่6 โดยพระนางเธอลักษมีลาวัณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเจ้านายพระองค์แรกที่นำชวนชมมาปลูกไว้ในตำหนักลักษมีวิลาส และประทานชื่อดอกไม้ชนิดนี้ว่า “ชวนชม” คนจีนเรียกชวนชมว่า “ปู้กุ้ยฮัว” แปลว่า ดอกไม้แห่งความร่ำรวย สำหรับคนไทยเชื่อว่าชวนชมเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง เพราะมีชื่อที่ไพเราะเป็นสิริมงคล และเคยปลูกในเขตวังหลวงมาก่อน จึงนิยมปลูกชวนชมไว้ประจำบ้าน เพื่อให้คนในบ้านได้รับความนิยมชมชอบและเกิดเสนห์ดึงดูดใจให้คนชวนมองชวนชมนั่นเอง
การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์โดยการปักชำ เพาะเมล็ดและเสียบยอด
นิเวศวิทยา : มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบแอฟริกา