ต้นไม้ที่ปลูกเเล้วเรียกโชคลาภเงินทองมาสู่เจ้าของ

ต้นไม้ให้โชค

 

ต้นไม้ที่ปลูกเเล้วเรียกโชคลาภเงินทองมาสู่เจ้าของ

การปลูกต้นไม้นั้นเป็นที่นิยมของคนทั่วไปเพราะจะทำให้มีความร่มรื่นสบายตาสบายใจ ใช้ประโยชน์ได้จากต้นไม้หลายอย่างเช่นใครปลูกไม้ประดับใหญ่ๆก็สามารถเป็นร่มเงาของบ้านได้ หรือปลูกดอกไม้ก็นำมาใส่ในเเจกันจะได้สวยๆในการประดับบ้าน หรือปลูกผลไม้จะได้เอาไว้กินได้

เเละต้นไม้ที่คนไทยชอบปลูกกันไม่น้อยคือต้นไม้ที่มีความเชื่อว่าสามารถเรียกเงินมาให้เจ้าของได้ เเบบนี้ใครละจะไม่ชอบเเละมาดูกันว่าต้นไม่ชนิดไหนบ้างที่จะนำโชคลาภมาให้ผู้ปลูก

ต้นเรกคือ ต้นสาลิกาลิ้นทอง เป็นไม้มงคลที่ผู้คนชอบที่จะปลูกกัน เพราะตามความเชื่อของไทย นี้คือไม้มงคล ใครมีสาลิกาลิ้นทางจะได้รับความเมตตา โชคภาภเข้ามาในบ้าน ลักษณะของต้นไม้จะมีใบสีเหลือง มีผลดก เหมาะกับการปลูกไว้ที่บ้านเรือน ร้านค้า เพื่อความเป็นสิริมงคล เเก้บ้านกรือร้านค้าที่ทำมาค้าขายอย่างดียิ่ง

ต่อมาคือต้นนางกวัก  ลักษณะเป็นไม้ประดับเป็นพุ่ม มีใบคล้ายกับรูปหัวใจสีเขียว ก้านนั้นมีความคล้ายกับใบโพธิ์ ซึ่งว่ากันว่าต้นนางกวักนี้จะช่วยให้ เรียกเงินเรียกทองได้ดีทีเดียว นิยมปลูกกันที่ร้านค้าทั่วไปหรือตามบ้านเพื่อให้ลูกค้ามาเข้าร้านจะทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูด

ถัดมาคือต้นวาสนา เป็นต้นไม้ที่มีลักษณะลำต้นที่มีความสูง ใบยาวเรียวเป็นสีเขียว ใครที่ปลูกต้นวาสนาเชื่อกันว่า จะทำให้วาสนาของผู้ปลูกหรือคนในบ้านนั้นมีวาสนาดีตามชื่อของต้นไม้เลย จะทำให้มีความรื่นรมในชีวิต จะมีความเป็นอยู่ที่สนใส เจริญรุ่งเรือง มีลาภยศเข้ามาสู่คนปลูกเเละคนไทยนั้นนิยมปลูกกันมากสำหรับต้นวาสนา

สุดท้ายคือต้นโป๊ยเซียน เป็นไม้ที่ชาวบ้านทั่วไปนิยมปลูกกันอย่างมาก ซึ่งปลูกง่าย เเละยังมีความสวยงามอีกด้วย เเละใครที่ปลูกต้นโป๊ยเซียนนั้นเชื่อกันว่าจะมีความฉลาดหลักเเหลม เเละมักจะนำเรื่องที่ดีมาสู่ผู้ปลูก เป็นต้นไม้ที่มีโชคลาภวาสนาอีเลยทีเดียว เหมาะสำหรับบ้านทั่วไปเเละโดยเฉพาะพ่อค้าเเม่ค้าควรมีไว้ในร้านเพื่อที่จะทำให้ลูกค้าเข้ามาร้ายเยอะจะส่งผลให้การค้าขายดีไปด้วยนี้คือความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกต้นโป๊ยเซียน goldenslot

ท้งหมดคือต้นไม้ที่ปลูกเเล้วจะทำให้ผู้ปลูกมีโชคลาภอยู่เย็นเป็นสุขในการใช้ชีวิตหากใครสนใจก็สามารถหาปลูกกันได้ไม่ยากการปลูกต้นไม้เป็นเรื่องที่ดีได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เเล้วยังช่วยรักษาโลกของเราอีกด้วยเพราะทุกวันนี้ต้นไม้มีน้อยเหลือเกิน

Comments are closed.