ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Hura crepitans L.
ไม้ต้น สูง 15 ม. ตามลำต้นและกิ่งแก่มีหนาม
ใบ : ก้านใบ ยาว 6-22 ซม. ยาวเกือบเท่าใบ ที่ปลายก้านมีต่อมรูปรี 1 คู่ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่หรือรูปรี กว้าง 6-13 ซม. ยาว 7-21 ซม. โคนรูปหัวใจ ปลายเรียวแหลม ขอบจักเป็นฟันเลื่อยชัดเจน หรือบางทีเห็นไม่ชัดเส้นใบเห็นชัดทั้งสองด้าน
ดอก : ช่อดอก ออกเดี่ยวๆตอนแรกสีเขียว แล้วเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ในช่อส่วนที่เป็นดอกเพศผู้ ยาว 16-45 มม. มีดอกเพศเมียหนึ่งดอกอยู่ที่โคนช่อ ดอกเพศผู้ มีเกสรเพศผู้ 10-20 อัน เรียงเป็น 3 ชั้น ดอกเพศเมีย มีก้านดอกย่อยาวกว่าดอกเพศผู้ ก้านเกสรเพศเมียยาว 9-35 มม. ยอดเกสรเพศเมีย เส้นผ่านศูนย์กลาง 14-26 มม.
ผล : สีเขียว เมื่อแก่สีน้ำตาลแดง กว้าง 8 ซม. ยาว 3-5 ซม. มีร่องตามยาวลึก และเว้าตื้นที่ปลายทั้งสองด้าน ผนังผลแข็ง หนา 3 มม.
เมล็ด : เส้นผ่านศูนย์กลาง 20 มม.
ชื่อวงศ์ : Euphorbiaceae
ประโยชน์ : ปลูกทั่วไปเป็นไม้ประดับ เป็นพืชทางการเกษตร ยางมีพิษใช้เบื่อปลา เนื้อไม้ใช้ทำเฟอนิเจอร์ได้แต่ไม่ทน
สรรพคุณทางสมุนไพร : เปลือก ราก ใช้แก้โรคผิวหนัง ยางมีพิษ อาจทำให้ตาบอดได้ ยางแห้งใช้รักษาโรคผิวหนัง เปลือก ต้น เป็นยาถ่าย อย่างแรง ใบผสมกับน้ำมันทาแก้โรคไขข้ออักเสบ น้ำต้มกินแก้ปวดเรื้อรัง เมล็ดใช้เป็นยาถ่ายและทำให้อาเจียน คั่วให้สุกใช้เป็นยาระบาย
นิเวศวิทยา : ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป เขตการกระจายพันธุ์ เป็นพื้นเมืองของอเมริกาเขตร้อน ตั้งแต่นิการากัวถึงเปรู ปัจจุบันปลูกทั่วไปในเขตร้อน