นางแลว


ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Aspidistra sutepensis K. Larsen
ชื่อวงศ์ : LILIACEAE

เป็นไม้พุ่ม มีเหง้าใต้ดิน เจริญเป็นกอแน่น สูง 30 – 50 ซม.

ใบ : รูปใบหอก ปลายแหลม แผ่นใบพับเป็นพลีท สีเขียวเหลือบเงิน มีก้านใบยาว

ดอก : ช่อดอกออกจากเหง้าที่โคนต้น ตั้งขึ้นสูง 4 – 6 ซม. ก้านช่อดอกสีครีมอมม่วง ดอกสีม่วง ขนาดประมาณ 8 มม. มีกลีบดอก 6 กลีบ ปลายแหลม

ประโยชน์ : ผักชนิดนี้ผู้เขียนพบครั้งแรกที่บ้านคุณมลิวัลย์ ปิ่นทอง ช่วงเดือนมีนาคม ที่จังหวัดเชียงใหม่ ปลูกไว้เป็นทิวแถวในสวนครัวหลังบ้าน คุณป้าเล่าให้ฟังว่า “นางแลวใส่ในแกงแคอร่อยมาก รสขมนิดหน่อย แต่ช่วยบำรุงร่างกายดี” ผลิดอกในช่วงปลายฤดูหนาวถึงฤดูร้อน เก็บมาลวกจิ้มน้ำพริก ใส่ในแกงแค แกงผักฮ้วนหมูหรือแกงปลาย่างก็อร่อย คุณป้ายังบอกว่าปัจจุบันดอกนางแลวหากินยาก เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จักเท่าไรนัก ทั้ง ๆ ที่ปลูกไม่ยาก แค่แยกกอมาปลูกใต้ต้นไม้ใหญ่ให้ได้ร่มเงาเสียหน่อย พอถึงฤดูกาลที่เหมาะสมก็จะออกดอก

การขยายพันธุ์ : นางแลวชอบดินร่วน ระบายน้ำดี อินทรียวัตถุสูง แสงครึ่งวันถึงรำไร อากาศเย็น ขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอมาปลูกใหม่ สามารถปลูกเป็นไม้ประดับในบ้านได้อย่างดี

นิเวศวิทยา : มีการกระจายพันธุ์ทางภาคเหนือของไทย

ใส่ความเห็น

อีเมล์ของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

คุณอาจจะใช้ tag หรือ attribute ต่อไปนี้ของ HTML: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong> มาใช้ได้