มะม่วง (Mango)


ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Mangifera indica L.

ไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 30 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาเป็นทรงพุ่ม หนาทึบ ทุกส่วนมีน้ำยางใส

ใบ : เป็นใบเดี่ยวรูปรีถึงรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบมน ยอดอ่อนของใบเป็นสีน้ำตาลออกแดง

ดอก : ออกเป็นช่อ ยาว 10-30 เซนติเมตร ดอกย่อยเล็กๆมีกลีบดอก 5 กลีบ สีเขียวอ่อนเกือบขาวเหลือง ดอกแยกเพศ มักออกดอกราวเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ พอเข้าหน้าร้อนจะติดผล เป็นลูกดิบสีเขียว มีเมล็ดอยู่ภายใน 1 เมล็ด ถ้าเด็ดลงมาจะมีน้ำยางเหนียวใส กลิ่นหอมอมเปรี้ยว เมื่อสุกกลายเป้นสีเหลืองอมส้มตามแต่สายพันธุ์ มีกลิ่นและรสชาติหอมหวาน หวานอมเปรี้ยว หวานมัน จืดมัน หรือเปรี้ยวจัด

วิธีการปลูกและดูแลรักษา : ควรปลูกมะม่วงในหน้าฝนจะเจริญและเติบโตได้ดีกว่าฤดูอื่น ชอบดินอุดมสมบูรณ์ มีอินทรียวัตถุสูง แสงแดดตลอดวัน ควรปลูกกลางแจ้ง เพราะนอกจากจะรับประทานผลได้แล้วยังเป็นร่มเงาบริเวณหน้าบ้านได้ด้วย หากหมั่นพรวนดิน ใส่ปุ๋ย ตัดแต่งกิ่งก้าน ลิดใบออกบ้างบางส่วน ก็จะทำให้มะม่วงแทงช่อดอก ออกผลมากมาย ช่วงก่อนออกดอกปลายฤดูหนาวมะม่วงต้องกาน้ำน้อยมากหรือแทบไม่ต้องการเลย แต่พอมะม่วงให้ผลในฤดูร้อนแล้วและกำลังเจริญเติบโต ช่วงนั้นต้องให้น้ำค่อนข้างมากและบำรุงเป็นพิเศษ

ชื่อวงศ์ : ANACARDIACEAE

ประโยชน์ : ดอกอ่อนๆ ยอดอ่อน ใบอ่อน และผลดิบ มารับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือยำ หรืออาจะเป็นของหวานทานเล่น ผลมะม่วงสุกนำไปคั้นเป็นน้ำมะม่วง หรือรับประทานเป็นของหวาน เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง นอกจากนี้เนื้อไม้มะม่วงยังนำมาทำเป็นเครื่องเรือน ของตกแต่งบ้าน และดนตรีบางชนิด เช่น ขิม นอกจากบริโภคเป็นผลไม้ทั้งดิบและสุกแล้ว ยอดใบเพสลาดและช่อดอกอ่อนนิยมกินเป็นผักสดกับน้ำพริกหลน อาหารรสจัดต่าง ๆ หรือใช้ทำซ่าผักของชาวเหนือ ให้ฟอสฟอรัสสูง รสเปรี้ยวอมฝาดเล็กน้อยและมีกลิ่นหอม โดยเฉพาะมะม่วงกะล่อน มะม่วงป่า (M. caloneura Kurz) และมะม่วงเบา (M. sp.) ส่วนผลดิบใช้ทำยำ น้ำพริกมะม่วง หรือดองกินเป็นของว่าง ผลสุกกินสดหรือกวนเก็บไว้กินได้นาน มะม่วงดิบจะให้วิตามินซีสูงกว่ามะม่วงสุกที่ให้วิตามินเอสูงมาก

สรรพคุณทางสมุนไพร : ใบสด รสเปรี้ยมชุ่มเย็น ต้มเอาแต่น้ำดื่มแก้ลำไส้อักเสบเรื้อรัง ท้องอืดแน่น ถ้าใช้ภายนอกนำมาใช้ชะล้างบาดแผลและพอกแผลสดได้ ยางจากลูกและต้น ผสมน้ำส้มหรือน้ำมันทาแก้คัน เปลือกผลดิบ คั่วรับประทานกับน้ำตาล แก้อาการปวดเมื่อยมีประจำเดือน เป็นยาคุมธาตุ เปลือกผลแห้ง บดเป็นผง ผสมน้ำนมและน้ำผึ้ง รับประทานแก้บิด ถ่ายเป็นเลือด และบำรุงอวัยวะภายในเกี่ยวกับการย่อยอาหาร

ต้นไม้สัญลักษณ์ : นิยมปลูกมะม่วงทางทิศใต้ของบ้าน โดยมีความเชื่อว่าหากปลูกมะม่วงเป็นต้นไม้ที่ให้ผลดกชนิดหนึ่ง ทำให้ผู้ปลูกสามารถทำประโยชน์ได้จากมะม่วงเป็นจำนวนมาก มะม่วงจึงเปรียบเสมือนความมั่งคั่งมั่งมีและอุดมสมบูรณ์ ชาวต่างชาติขนานนามมะม่วงว่าเป็น “ราชาแห่งผลไม้” เพราะมะม่วงเป็นผลไม้ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการมากมาย มีประโยชน์ นำมาดัดแปลงเป็นอาหารคาวหวานได้หลากหลายชนิด และเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ

การขยายพันธุ์ : มะม่วงชอบดินร่วน ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง แสงแดดจัด ไม่ทนน้ำท่วมขัง และควรมีพื้นที่ปลูกกว้างกว่า 10 ตารางเมตร เพื่อให้ต้นแตกกิ่งก้านได้ดี นิยมขยายพันธุ์ด้วยการทาบกิ่งมากกว่าเพาะเมล็ด เพราะให้ผลได้หลังปลูก 1 – 2 ปี ขณะต้นออกดอกและเริ่มติดผลมักมีเพลี้ยเข้าทำลายและทำให้เกิดราดำ ควรฉีดพ่นน้ำตามช่อดอกอยู่เสมอ และไม่ควรปลูกเพื่อให้ร่มเงาเป็นที่จอดรถ เพราะน้ำยางจะทำให้สีรถด่างและถ้าโดนผิวหนังจะทำให้แสบและเกิดแผลได้

นิเวศวิทยา : มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ใส่ความเห็น

อีเมล์ของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

คุณอาจจะใช้ tag หรือ attribute ต่อไปนี้ของ HTML: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong> มาใช้ได้