ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Acacia concinna (Willd.) D.C.
ชื่ออื่น เครือส้มป่อย
ไม้พุ่มรอเลื้อย เป็นเครือมีหนาม คล้ายผักขา ปักหละ ชะอม ส่วนยอดคล้ายยอดชะอมหรือผักขา ยอดส้มป่อยสีจะออกแดงน้ำตาล มีรสเปรี้ยว เป็นเครือมีหนามตามลำต้น กิ่ง ก้านและใบ คล้ายผักขา ปักหละ ชะอม ส่วนยอดคล้ายยอดชะอมหรือผักขา ยอดส้มป่อยสีจะออกแดงน้ำตาล มีรสเปรี้ยว หนามอยู่ตามต้นออกสีน้ำตาลดำ ถ้ามีอายุมากจะไม่มีหนาม
ใบ : ประกอบแบบขนนกสองชั้น เรียงสลับ ยาว 7-20 ซม. ใบย่อยรูปขอบขนาน ขนาดเล็ก เริ่มออกดอกเดือน 3-4 เมล็ดออกสีดำแก่เมื่อเข้าเดือน
ดอก : 6 ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ เป็นช่อกลม กลีบดอกเป็นหลอด สีนวล ดอกคล้ายดอกกระถิน สีขาวปุยอมน้ำตาล ทรงกลม ฝักแก่ ความยาวประมาณ 1นิ้ว แบน อ้วน เป็นปล้องสีน้ำตาลอมเหลืองเรื่อๆ
ผล : ผลเป็นฝัก สีน้ำตาลดำ ผิวย่นขรุขระ ขอบมักเป็นคลื่น
ชื่อวงศ์ : LEGUMINOSAE – MIMOSOIDEAE
ประโยชน์ : ยอดอ่อนกินเป็นผักสดกับน้ำพริก จิ้มแจ่ว หรือใช้ปรุงอาหารได้หลายอย่าง เช่น แกงส้ม ต้มยำ ต้มปลาให้รสเปรี้ยว ใช้แทนน้ำมะขามเปียกหรือใส่ร่วมกันก็ได้ มีมากในฤดูฝน
สรรพคุณทางสมุนไพร : ใบรสเปรี้ยว ขับเสมหะ เป็นยาระบาย ยอดอ่อนใส่ต้มปรุงอาหาร ทำเป็นยาอบ ยาประคบ ขับของเสียออกจากร่างกายแต่แสลงต่อโรคน้ำเหลืองเสีย เครือ เปลือกเครือ สมานแผล สมานลำไส้ แก้ถ่าย บิด ท้องเสีย ควรนำมาปิ้งไฟก่อนต้มน้ำกินรักษาอาการท้องเสีย ถ่ายจะได้ไม่หยดกะทันหัน จะไม่ชวนอาเจียน
ต้นไม้สัญลักษณ์ : เกร็ด ส้มป่อยเป็นไม้มงคลของไทย ควรปลูกในทิศเหนือ จะช่วยป้องกันสิ่งเลวร้ายหรือภูตผีให้กับบ้านเรือนได้ นอกจากนี้ชาวเหนือยังนำฝักส้มป่อยมาปิ้งไฟพอเหลือง แช่ในน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้ไปทำน้ำมนต์ หรือในงานเผาศพ เจ้าภาพจะเตรียมน้ำส้มป่อยให้ผู้ร่วมงานใช้ล้างหน้าหลังเผาศพ เพื่อปัดเป่าความเศร้าโศกให้หายไป บ้างก็นิยมพกฝักส้มป่อยไปในงานศพ เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจหรือสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ในวันสงกรานต์ ชาวเหนือจะนำฝักส้มป่อย ดอกคำฝอย และดอกสารภี แช่น้ำจนมีสีเหลืองของดอกคำฝอย เรียกว่าน้ำขมิ้นส้มป่อย ใช้สรงน้ำพระและรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่
การขยายพันธุ์ : ส้มป่อยชอบดินร่วน ระบายน้ำดี แสงแดดตลอดวัน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำหรือตอนกิ่ง ชาวเหนือนิยมปลูกเป็นไม้ริมรั้วในสวนหลังบ้าน โดยทำเป็นซุ้มไม้ให้ต้นพาดเลื้อย เพื่อสะดวกในการเก็บไปใช้ประโยชน์
นิเวศวิทยา : เป็นไม้ป่า ชอบอยู่กับต้นไม้อื่นแบบพึ่งพาพาดพันไม้ที่ใหญ่ดิน จอมปลวก ดินร่วนปนทรายแบบดินดง ไม้อยู่เดี่ยวไม่มีต้นไม้อื่นจะอยู่เป็นพุ่มแข็งแรงพาดกันเอง อยู่ในภูมิประเทศและอาณานิคมเดียวกันกับเครืออีเลี่ยน หรืออ้อยสามสวนเครือ ชะเอมป่าหน้าคล้ายกัน ต่างกันที่รสและไม่มีหนาม