ฟัก (winter melon)


ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Benincasa hispida (Thunb.) Cogn.

เป็นไม้เลื้อย มีลำต้นเลื้อยพัน ทุกส่วนมีขนหยาบปกคลุม มีมือเกาะแตกแขนง 2 – 3 แขนง

ใบ : หยักเว้าเป็นแฉก เรียงสลับกัน

ดอก : แยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ดอกบานขนาด 6 – 12 ซม. สีเหลือง ดอกเพศผู้มีอับเรณูสีเหลือง ก้านดอกยาว ดอกเพศเมียมีรังไข่อยู่ใต้วงกลีบ ก้านดอกสั้น

ผล : ทรงกระบอก ยาวได้ถึง 50 ซม. เมื่ออ่อนมีขนอ่อนปกคลุม พอแก่ผลแข็ง มีนวลสีขาวปกคลุม ภายในมีเมล็ดรูปไข่แบนจำนวนมาก

ชื่อวงศ์ : Cucurbitaceae

ประโยชน์ : ยอดอ่อนใช้ทำแกงเลียง แกงส้ม ผลใส่ในแกงเผ็ด มีเนื้อนุ่มเคี้ยวง่าย เหมาะกับผู้สูงอายุ ให้คุณค่าทางอาหารพอเพียง นิยมใช้ประกอบอาหารจีน ทั้งแกงจืด เป็ดตุ๋น ไก่ตุ๋น ผัดเผ็ดต่าง ๆ เพราะเชื่อว่าเป็นยาเย็น แก้ร้อนใน กระหายน้ำ และช่วยลดไข้ได้ดี

สรรพคุณทางสมุนไพร : รากต้มน้ำดื่มเป็นยาลดไข้ แก้กระหายน้ำ และถอนพิษ ใบตำพอกแก้ฟกช้ำบวมเนื่องจากแมลงกัดต่อย ผลต้มใส่น้ำตาลกรวดดื่มเป็นยาเย็น แก้ร้อนใน บำรุงร่างกาย เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ โดยเฉพาะฟักหอม (ผลกลม) จะมีกลิ่นหอมชื่นใจ เมล็ดเป็นยาระบาย ช่วยถ่ายพยาธิ ลดไข้ แก้ปวด บวมอักเสบ รักษาริดสีดวงทวาร ลำไส้อักเสบ ทางเดินปัสสาวะและไตอักเสบ บำรุงผิว

การขยายพันธุ์ : ฟักชอบดินร่วน ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง แสงแดดตลอดวัน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปฏิบัติเช่นเดียวกับการปลูกฟักทองและแตงโม แต่ใช้พื้นที่น้อยกว่า เพราะการปลูกฟักจำเป็นต้องทำค้างให้ต้นเลื้อยพันจึงจะให้ผลมาก

นิเวศวิทยา : มีถิ่นกำเนิดในเกาะชวา ปลูกมากในเอเชีย