ชื่อทางวิทยาศาสตร์ :
Garcinia cowa Roxb. Ex DC.
เป็นไม้ยืนต้นที่สูงได้ถึง 15 เมตร ทุกส่วนมีน้ำยางสีเหลือง
ใบ : รูปรีแกมรูปขอบขนาน ออกตรงข้ามกัน ปลายใบแหลม ยอดอ่อนมีสีแดงเรื่อเป็นมัน
ดอก : กลีบดอกแข็ง มี 4 กลีบ สีเหลือง เป็นดอกแยกเพศ โดยดอกเพศผู้สีชมพูอมแดงออกเป็นกระจุก ส่วนกอกเพศเมียเป็นดอกเดี่ยว ขนาดใหญ่กว่าดอกเพศผู้เล็กน้อย เห็นยอดเกสรสีเหลืองเด่นชัด ผลิบานในเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน
ผล : กลมคล้ายมังคุด แต่มีขนาดเล็ก ประมาณ 3 ซม. เมื่อสุกมีสีเหลืองอมส้มและแตกออกเป็นเสี้ยว มีเนื้อหนา รสฝาด
เมล็ด : มีเมล็ด 7 – 12 เมล็ด
ชื่อวงศ์ : GUTTTIFERACEAE
ประโยชน์ : เป็นผักพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่มีรสเปรี้ยว นิยมกินยอดอ่อนสีแดงเป็นผักสดกับป่น ลาบ แจ่ว หรือปรุงอาหาร เช่น แกหมูใบชะมวง ต้มยำไก่บ้านใส่ใบชะมวง ต้มส้ม หรือแกงอ่อน ให้วิตามินเอและวิตามินบี 1 ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังกินเป็นผลไม้ได้เล่นเดียวกับมังคุด แต่มีรสเปรี้ยว ชาวใต้จึงใช้ปรุงแกงส้มเช่นเดียวกับใบ
สรรพคุณทางสมุนไพร : รากมีรสเปรี้ยว ใช้แก้ไข้ ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยถอนพิษไข้ แก้บิด ขับเสมหะ ใบหรือน้ำยาแห้งจากลำต้นนำมาฝนกินเป็นยาระบาย แก้ไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ ผลช่วยระบาย แก้ไข้ กัดฟอกเสมหะ แก้กระหายน้ำ ฟอกเลือด นอกจากนี้ชาวใต้ยังนิยมนำผลและใบแก่มาหมักเป็นน้ำกรดสำหรับฟอกหนังวัวหนังควายที่ใช้ทำตัวหนังตะลุง ส่วนเปลือกต้นและน้ำยางสีเหลืองใช้เป็นสีย้อมผ้า
การขยายพันธุ์ : ชะมวงชอบดินร่วน ชุ่มชื้น ระบายน้ำดี มีแสงแดดครึ่งวันถึงตลอดวัน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง สำหรับต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดจะโตช้า ใช้เวลานานถึง 5 ปีกว่าต้นจะผลิดอกออกผลได้ส่วนต้นที่ได้จากการตอนกิ่งจะให้ผลผลิตเร็ว ปัจจุบันสามารถปลูกได้ในกรุงเทพฯ
นิเวศวิทยา : พบตามป่าดิบชื้นและป่าเบญจพรรณทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของไทย