ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Tagetes erecta L.
ไม้ล้มลุก ฤดูเดียว สูงประมาณ 1 เมตร ลำต้นตั้งตรง เมื่อขยี้จะมีกลิ่นฉุน
ใบ : ใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม ขอบใบเป็นรอยหยักเว้าเป็นแฉกเล็กๆดูคล้ายใบประกอบ สีเขียวเข้ม กลิ่นฉุน มีหลายพันธุ์
ดอก : มีทั้งดอกเล็กและดอกใหญ่ สีเหลืองสด เหลืองส้ม และเหลืองแกมน้ำตาล ออกดอกเป็นช่อกระจุกแน่น กลีบดอกย่อยมีลักษณะบานแผ่ยาวหยักซ้อนกันหลายชั้น หยิกเป็นคลื่นละเอียดเต็มหมดทั้งดอกท
เมล็ด : ยาว เรียวแบน สีน้ำตาลเข้มเกือบดำใช้ขยายพันธุ์
วิธีการปลูกและดูแลรักษา : ดาวเรืองมักออกดอกในฤดูหนาว ชอบดินร่วนหรือระบายน้ำได้ดี ควรปลูกไว้กลางแจ้งเพราะเป็นไม้ที่ชอบแดดจัดตลอดวัน นิยมปลูกเป็นไม้ประดับริมรั้ว หรือปลูกในกระถาง เพราะปลูกขึ้นง่าย ใช้วิธีเพาะเมล็ด เมื่อต้นอ่อนเริ่มงอกควรให้ปุ๋ยบำรุงต้นอย่างสม่ำเสมอ เพียงไม่เกินหนึ่งเดือนดาวเรืองก็จะออกดอก ปัจจุบันดาวเรืองจัดเป็นพืชเศรษฐกิจยอดนิยมต้นหนึ่ง เพราะมีการปรับปรุงพันธุ์จนได้พันธุ์ “ดาวเรืองเกษตร” ที่ให้ดอกใหญ่ กลีบหนา มีอายุการใช้งานนาน จึงมีราคาในตลาดสูงกว่าพันธุ์ดั้งเดิมที่ให้ดอกเล็กกว่า
ชื่อวงศ์ : Asteraceae
ประโยชน์ : ปลูกเป็นไม้ประดับ จัดสวน ให้ความสวยงาม ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา บูชาพระหรือเทพเจ้า กลีบดอก นำมารับประทานได้ โดยนำมาใส่ไข่เจียว ชุบแป้งทอด กลีบดอกสีเหลืองสด ใช้ย้อมผ้า ใช้ผสมอาหารให้ไก่กินเพื่อให้ได้ไข่ไก่ที่มีสีสวยและช่วยให้ผิวหนังไก่มีสีเข้มอีกด้วย
สรรพคุณทางสมุนไพร : ดอก นำมาต้มกับเนื้อไก่หรือตับไก่กินบำรุงสายตา ให้วิตามินเอค่อนข้างสูง ดอกสดหรือดอกแห้ง ต้มน้ำผสมน้ำตาลแดงดื่มแก้ไอกรน แก้เจ็บตา แก้ปวดฟัน ขับเสมหะ หลอดลมอักเสบ และแก้คางทูมได้ ในประเทศสหรัฐอเมริกานำดอกมาทำเป็นครีมรักษาสิว แก้อักเสบและใช้บำรุงผิว ใบ นำมาคั้นเป้นยาเย็นหยอดแก้ปวดหูอหรือใช้ใบตำพอกรักษาแผล ฝี หนองได้
ต้นไม้สัญลักษณ์ : ในยุโรปดาวเรืองเป็นดอกไม้บูชาหน้าแท่นพระแม่มารีย์ ชาวฝรั่งเศสนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยพระนารายณ์มหาราช เชื่อกันว่าดาวเรืองเป็นไม้มงคล เพราะศาสนาทุกศาสนานิยมใช้ดอกดาวเรืองปักแจกันหรือร้อยเป็นพวงบูชาพระหรือเทพเจ้า เพื่อให้เกิความเป็นสิริมงคล เจริญรุ่งเรืองสมชื่อ ดอกดาวเรืองมีสีเหลืองสด เรืองแสงได้ และมีคุณประโยชน์มาก ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้ประจำจังหวัด สมุทรปราการ
การขยายพันธุ์ : ดาวเรืองชอบดินร่วน ระบายน้ำดี แสงแดดตลอดวัน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด หลังหว่านเมล็ด 5 – 7 วัน ต้นจึงงอก จากนั้น 2 – 3 สัปดาห์ จึงเริ่มให้ดอกได้ ถ้าต้องการให้ต้นเป็นพุ่มและมีดอกมาก ควรเด็ดยอดทิ้งหลังจากเพาะเมล็ดและมีใบจริง 6 – 8 ใบแล้วให้ปุ๋ยบำรุงต้นและดอกสม่ำเสมอ
นิเวศวิทยา : มีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโก